จากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบ ต่อชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างเราๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากความรู้สึกร้อนอบอ้าว เหนอะหนะ ไม่สบายตัวแล้ว อากาศร้อนยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคต่างๆ รวมทั้งส่งผลต่อการทำงาน สภาพความเป็นอยู่ การใช้พลังงาน และคุณภาพชีวิตโดยรวมอีกด้วย แต่หนึ่งในปัญหาที่หลายคนกังวลที่สุด จากสภาพอากาศร้อนขนาดนี้ นั่นก็คือ ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าจะลดลง จนกว่าจะหมดฤดูร้อนซึ่งก็กินเวลายาวนานกว่า 4-5 เดือน แถมยังมีพยากรณ์อากาศบอกอีกว่า ประเทศไทยจะมีฤดูร้อนยาวนานขึ้นทุกปีอีกด้วย แน่นอนว่าก็นำมาซึ่งภาระทางการเงินสำหรับหลายครอบครัว


แต่จะทำยังไงได้ อากาศทะลุ 40 องศาขนาดนี้ ก็จำเป็นต้องพึ่งพาแอร์หรือเจ้าเครื่องปรับอากาศเท่านั้นแหละ ถึงจะพอคลายร้อนได้ และในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ บทความนี้ทรูช้อปปิ้งก็ได้รวบรวมวิธีช่วยเพื่อนๆ ให้ประหยัดค่าไฟ รวมทุกเทคนิค เปิดแอร์หน้าร้อนให้ประหยัด ต้องทำยังไง จะเปิดแอร์ยังไงให้เย็นสบาย ประหยัดค่าไฟได้ดีที่สุด การเลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ช่วยได้ไหม? และการล้างแอร์บ่อย ประหยัดไฟจริงหรือ? พร้อมแล้วตามไปดูพร้อมกันได้เลย! 


สนใจเครื่องปรับอากาศ แอร์ ประหยัดไฟ คลิก


แจก 7 วิธี เปิดแอร์หน้าร้อนให้ประหยัด ค่าไฟไม่พุ่ง

1) ปรับใช้โหมดแอร์ที่เหมาะสม

ในแอร์รุ่นใหม่ๆ มักมีโหมดอัตโนมัติ (Auto Mode) หรือโหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode) เพื่อให้แอร์สามารถปรับอุณหภูมิในห้อง ให้อยู่ในระดับที่มีความเย็นสบายเหมาะสมแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาปรับตั้งค่าเอง และ Eco Mode หรือโหมดใช้พลังงานต่ำ ที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน เรียกว่าเป็นโหมดประหยัดพลังงานที่จะมาช่วยประหยัดค่าไฟได้อย่างแท้จริง 


2) ปรับอุณหภูมิเหมาะกับการใช้และขนาดห้อง

หลังจากเลือกใช้โหมดแอร์ที่เหมาะสมแล้ว เทคนิคต่อมาในการเปิดแอร์หน้าร้อนให้ประหยัด คือ การปรับอุณหภูมิในห้องให้อยู่ในระดับที่เย็นสบายพอดี โดยแนะนำตั้งอุณหภูมิที่ 25-26 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมนี้ จะช่วยให้ประหยัดพลังงาน โดยไม่ต้องทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไป 


3) บำรุงรักษาแอร์อย่างสม่ำเสมอ

รักษาความสะอาดของตัวเครื่องแอร์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช้มีฝุ่นผง ใยแมงมุม หรือสิ่งกปรกมาเกาะตามจุดต่างๆ ของแอร์ เพื่อให้การทำงานของเครื่องไม่ต้องใช้พลังงานมาก รวมไปถึงการทำความสะอาดฟิลเตอร์และคอยล์ ตรวจสอบระบบการทำงานของตัวเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ระบบทำงานได้ดีและประหยัดพลังงานได้มากขึ้น  



4) บล็อกแสงแดดไม่ให้เข้ามาเพิ่มความร้อน

ใช้ผ้าม่านบังแดด ปิดหรือบล็อกแสงแดดจากหน้าต่าง ประตู เพื่อลดการระบายความร้อนเข้าสู่ห้อง เนื่องจากความร้อนจากแสงแดดสามารถทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น รวมไปถึงการติดฉนวนกันความร้อน หรือฟิล์มกันความร้อนที่หน้าต่าง ประตู ผนังกำแพง และหลังคา เพื่อช่วยลดการดูดซับความร้อนจากภายนอก  


5) ใช้พัดลมร่วมกับแอร์ช่วยเพิ่มความเย็น

ในวันที่อากาศร้อนจัดและมีความเย็นไม่เพียงพอในห้อง ให้เปิดพัดลมเพิ่มเพื่อช่วยลดการใช้งานแอร์ เพราะพัดลมช่วยกระจายความเย็นทั่วห้อง ทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป หรือใช้การเปิดพัดลมไปพร้อมเปิดแอร์ที่ 27 องศา จะทำให้ค่าไฟลดลงมาเกือบ 50% ก็เป็นวิธีที่พิสูจน์จากผู้ใช้ และได้รับการยืนยันจากการไฟฟ้าแล้วว่าสามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง!


6) ตั้งเวลาปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน

หรือใช้เครื่องตั้งเวลา (Timer) ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์อัตโนมัติเพื่อควบคุมการใช้งาน และปิดแอร์เมื่อไม่มีคนอยู่ในห้องเพื่อลดการใช้พลังงาน 


7) เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

การเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศที่มีฉลากนี้ออกโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อแสดงถึงผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยเครื่องปรับอากาศที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะมีคุณสมบัติดังนี้ 

  • ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง (Energy Efficiency Ratio - EER) แอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะมีค่า EER สูงกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป ซึ่งหมายถึงสามารถให้ความเย็นได้มากขึ้นต่อหน่วยพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ 
  • ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศที่ไม่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5  
  • ช่วยลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟฟ้าลดลงเนื่องจากการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  • ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงมักจะมีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานกว่า 


แค่เพียงเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็เป็นการตัดสินใจที่ดีและคุ้มค่า เพราะนอกการประหยัดค่าไฟได้มากกว่าแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 



เปิดแอร์ตอนไหน ประหยัดไฟที่สุด

นอกจากเทคนิคทั้ง 7 ข้อในการเปิดแอร์ยังไงให้เย็นสบาย ประหยัดค่าไฟ ที่เราได้แนะนำไปแล้ว คำถามต่อมาที่เพื่อนๆ หลายคนอาจสงสัยก็คือ เปิดแอร์ตอนไหนดี จะช่วยประหยัดไฟที่สุด? คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และความต้องการในการใช้แอร์ของเรา เช่น อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิภายในบ้าน ระดับความชื้น และประสิทธิภาพการใช้งานของแอร์ แต่เราก็มีแนวทางที่น่าสนใจว่า เปิดแอร์ตอนไหน ประหยัดไฟที่สุด มาแนะนำให้เพื่อนๆ สามารถเลือกไปใช้เพื่อช่วยประหยัดพลังงานเมื่อเปิดแอร์ได้ ดังนี้ 

  • หากต้องการประหยัดไฟ แนะนำให้คุณเปิดแอร์เฉพาะในช่วงเวลาที่จำเป็น และต้องการใช้ เช่น เมื่อมีคนอยู่ในห้อง หรือต้องใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความเย็น 
  • เลือกเวลาเปิดแอร์ช่วงเย็นและกลางคืนเมื่อพระอาทิตย์ตก เพราะอากาศภายนอกจะเย็นลง ตะช่วยลดภาระการทำงานของแอร์ และทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  • เลือกเวลาเปิดแอร์ตอนช่วงเช้าตรู่ และควรเปิดในช่วงเวลาที่อากาศยังไม่ร้อนมากเพื่อให้แอร์ไม่ทำงานหนักเกินไป 
  • เปิดแอร์เวลานอนหลับในโหมดอัตโนมัติ หากคุณใช้แอร์ในการควบคุมอุณหภูมิในห้องในระหว่างการนอนหลับ การตั้งเวลาให้แอร์ทำงานตลอดคืน อาจช่วยให้คุณนอนหลับได้สบายและไม่รู้สึกร้อน ที่สำคัญแนะนำเลยว่าหากแอร์ของคุณมีระบบควบคุมอัตโนมัติ ก็ควรเปิดใช้โหมดนี้ เพราะจะช่วยประหยัดการทำงานของไฟฟ้าได้ เพราะระบบนี้จะช่วยปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสภาพในห้องได้  


สรุปได้ว่า อาจไม่มีเวลาที่เหมาะสมตายตัวในการเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟที่สุด เพราะคุณสามารถเปิดได้ตามเวลาเท่าที่คุณต้องการ แต่ควรพิจารณาตามสภาพแวดล้อมและความสะดวกสบายของคุณเอง แต่นอกจากรู้ว่าเปิดแอร์ตอนไหน ประหยัดไฟที่สุดแล้ว อย่าลืมอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้ดีที่สุด ก็คือ ต้องปิดแอร์เมื่อไม่มีคนในห้อง เพื่อประหยัดพลังงานนั่นเอง 



ล้างแอร์บ่อย ประหยัดไฟจริงหรือ?

แน่นอนว่า การซ่อมบำรุง ดูแลทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือล้างแอร์เป็นประจำ ทำให้แอร์มีสภาพดีอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอร์ และช่วยประหยัดพลังงานได้โดยตรง นั่นก็เพราะ…


การล้างแอร์ช่วยเพิ่มการไหลของอากาศ : การล้างแอร์จะช่วยเอาเสียงสิ่งสกปรกและฝุ่นออกจากตัวเครื่อง ทำให้แอร์สามารถดูดอากาศเข้ามาและปล่อยอากาศเย็นออกได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้แอร์ทำงานได้สมบูรณ์และใช้พลังงานน้อยลง


การล้างแอร์ช่วยลดการต้านทานในระบบท่อ: การล้างแอร์จะช่วยลดการต้านทานในระบบท่อและหน้าตัวกรองอากาศ ซึ่งจะช่วยลดการทำงานของพัดลมและคอมเพรสเซอร์ในตัวเครื่อง ซึ่งจะเป็นการประหยัดพลังงาน


การล้างแอร์ช่วยลดการทำงานเพิ่มเติมของคอมเพรสเซอร์: การล้างแอร์เป็นประจำจะช่วยลดการทำงานเพิ่มเติมของคอมเพรสเซอร์ เนื่องจากคอมเพรสเซอร์จะต้องทำงานหนักขึ้นเมื่อต้องการทำความสะอาดอากาศที่เสียไปหรือมีการต้านทานในระบบ


การล้างแอร์ช่วยป้องกันการเสียหายของอุปกรณ์: การล้างแอร์เป็นประจำยังช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ เนื่องจากสิ่งสกปรกและคราบสารต่าง ๆ อาจทำให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้นในระบบ ทำให้เครื่องทำความเย็นต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อทำงาน


ดังนั้น การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอร์ และช่วยประหยัดพลังงานได้จริงๆ โดยการล้างอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อปี จะเป็นการดูแลที่เหมาะสมสำหรับแอร์ในบ้านหรือสถานที่ทำงานประจำ 



เปิดแอร์ 25 องศา กินไฟมากแค่ไหน ?

การคำนวณการใช้ไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศที่ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศาเซลเซียสนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาด (BTU) ของเครื่องปรับอากาศ ประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ (SEER หรือ EER) และระยะเวลาที่เปิดเครื่องปรับอากาศ อย่างไรก็ตาม เราสามารถประมาณการค่าใช้ไฟฟ้าได้คร่าวๆ โดยใช้สูตรเบื้องต้นดังนี้ …



ดังนั้น ค่าไฟฟ้าสำหรับการเปิดแอร์ 25 องศาเป็นเวลา 8 ชั่วโมงอาจอยู่ที่ประมาณ 112.64 บาท ขึ้นอยู่กับราคาค่าไฟฟ้าในพื้นที่ของคุณและประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศที่ใช้ หากต้องการการคำนวณที่แม่นยำมากขึ้น ควรตรวจสอบกำลังไฟฟ้าที่แท้จริงของเครื่องปรับอากาศของคุณจากคู่มือหรือฉลากของผู้ผลิต และคำนึงถึงอัตราค่าไฟฟ้าของพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ได้ 


อย่าลืมใช้เอาแนวทางและเคล็ดลับ เปิดแอร์หน้าร้อนให้ประหยัด เปิดแอร์ยังไงให้เย็นสบาย ประหยัดค่าไฟ ที่เรานำมาฝากนี้ ไปปรับใช้ให้เหมาะกับการใช้งานและพื้นที่บ้านของเพื่อนๆ ดูนะ เชื่อเถอะว่าการใช้แอร์อย่างถูกวิธีและใช้แอร์ที่มีมาตรฐานมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะ

แชร์ :