สวิตช์ไฟบ้าน เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทุกคนรู้จักกันดี เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราควบคุมแสงสว่างภายในบ้าน อาคาร หรือสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วมีสวิตช์ไฟแบบต่างๆ มากมายหลายแบบให้เราเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ลองมาทำความรู้จักกับสวิตช์ไฟแบบต่าง ๆ กันได้เลย


สวิตช์ไฟบ้าน อุปกรณ์สำคัญที่ต้องรู้จัก

สวิตช์ไฟ คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ควบคุมวงจรและกระแสไฟฟ้าโดยการเปิดและตัดกระแสไฟที่ไหลเข้าสู่หลอดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งสวิตช์ไฟบ้านนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็วแค่สัมผัส จากนั้นอุปกรณ์ภายในสวิตช์ก็จะเชื่อมต่อกันเพื่อทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แต่หากปิดสวิตช์จะเป็นการป้องกันอุปกรณ์ภายในไม่ให้สัมผัสกัน ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่ไหลผ่าน จึงเป็นการปิดไฟในบ้านหรืออาคารดวงที่เราต้องการนั่นเอง



สวิตช์ไฟบ้านมีกี่แบบ

เราอาจคุ้นเคยกับสวิตช์ไฟบ้านแบบกระดกที่สามารถกดเปิดปิดได้ตามต้องการ แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วยังมีสวิตช์ไฟแบบต่างๆ อีกหลายแบบ โดยเรารวมสวิตช์ไฟที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ทั้ง 7 แบบมาฝากแล้ว 


1. สวิตช์ไฟทางเดียว

สวิตช์ไฟทางเดียวใช้เพื่อควบคุมวงจรไฟฟ้าสำหรับหลอดไฟดวงเดียวหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ติดตั้งและเดินกระแสไฟง่าย นิยมใช้งานทั่ว ๆ ไปทั้งในบ้านและอาคาร ที่สำคัญยังราคาไม่แพงด้วย


2. สวิตช์ไฟ 2 ทางหรือสวิตช์ไฟ 3 ทาง


ความจริงแล้วสวิตช์ไฟ 2 ทางและสวิตช์ไฟ 3 ทางนั้นเป็นสวิตช์ประเภทเดียวกัน แต่เรียกต่างกันโดยในประเทศอังกฤษจะเรียกสวิตช์ไฟ 2 ทาง ส่วนประเทศอเมริกาจะเรียกสวิตช์ไฟ 3 ทาง เรียกอีกอย่างว่าสวิตช์แบบขั้นบันได มีปุ่ม 2 – 3 ตัวแยกออกจากกัน เป็นสวิตช์ที่สามารถควบคุมกระแสไฟได้ 2 ทิศทางสำหรับไฟดวงเดียว เช่น การติดตั้งไว้ที่ปลายบันไดชั้นหนึ่งและชั้นสองเพื่อเปิดปิดไฟบันได เป็นต้น 



3. สวิตช์หรี่ไฟ

สวิตช์ไฟบ้านประเภทนี้เป็นสวิตช์แบบหมุน มีก้านเป็นวงกลม อาจมีตำแหน่งตัดต่อกระแสไฟหลายตำแหน่งที่เราสามารถปรับลดหรือเพิ่มความสว่างของหลอดไฟได้หลายระดับ เหมาะกับห้องที่ต้องการแสงสลัวหรือห้องพักผ่อน ห้องนอน เป็นต้น สวิตช์ไฟประเภทนี้มีข้อดีคือความประหยัดพลังงานและช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดไฟให้ยาวนานขึ้น สวิตช์ประเภทนี้ในปัจจุบันสามารถใช้งานกับหลอด LED ได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้งานกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้ 


4. สวิตช์ไฟแบบเลื่อน

สวิตช์ไฟแบบเลื่อนพบได้บ่อยในอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น นาฬิกาปลุก ไฟฉาย เมาส์บลูทูธ ของเล่นเด็ก เป็นต้น ลักษณะเป็นก้านสวิตช์หรือแป้นสวิตช์ยื่นออกจากตัวเครื่อง หากเลื่อนขึ้นจะเป็นการต่อกระแสไฟฟ้า (ON) ส่วนการเลื่อนลงจะเป็นการตัดกระแสไฟฟ้า (OFF)


เลือกซื้อสินค้า สวิตช์ไฟในบ้าน แบบต่างๆ คลิก


5. สวิตช์ไฟ แบบสัมผัส

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สำหรับสวิตช์ไฟบ้าน ก็ต้องพูดถึง "สวิตช์ไฟแบบสัมผัส" ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย ดูโมเดิร์น เนื่องจากผิวสัมผัสเรียบเนียนสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสวิตช์หรือกล่องไฟ และเมื่อต้องการเปิดหรือปิดไฟ ก็แค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสเบา ๆ เท่านั้น ที่สำคัญยังเปียกน้ำได้ไม่ต้องกลัวไฟรั่วหรือไฟดูด สามารถติดตั้งควบคู่กับกรอบกันน้ำเพื่อใช้งานนอกบ้านได้ ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นคราบเหลืองเพราะผลิตจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ผิวหน้าผลิตจากกระจกเทมเปอร์ จึงสวยงาม แข็งแกร่ง และทันสมัยเข้ากับบ้านทุกสไตล์


6. สวิตช์ไฟแบบกด

สวิตช์ไฟแบบกดเป็นสวิตช์ไฟบ้านที่พบได้บ่อยอีกประเภทในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มีลักษณะเป็นปุ่มกดเพื่อเปิด-ปิดการทำงานของอุปกรณ์ชิ้นนั้น ๆ ควบคุมการเปิดหรือปิดโดยใช้ปุ่มเพียงปุ่มเดียว มีทั้งแบบกดแล้วปุ่มจม ส่วนการกดอีกครั้งจะทำให้ปุ่มกลับสู่ตำแหน่งเดิม และยังมีปุ่มแบบกดแล้วเด้งกลับตำแหน่งเดิมทันที หากต้องการปิดการทำงานของอุปกรณ์ก็กดซ้ำอีกครั้ง


7. สวิตช์ไฟแบบก้านยาว

สวิตช์ไฟแบบก้านยาวจะมีลักษณะเป็นตัวก้านยื่นออกมาจากกล่องไฟ สามารถพบได้ในการใช้งานเพื่อเปิดปิดไฟตามตำแหน่งต่าง ๆ เบรกเกอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ 


เป็นอย่างไรกันบ้างกับสวิตช์ไฟบ้านรูปแบบต่าง ๆ ที่เรานำมาฝากกันถึง 7 แบบ โดยเฉพาะสวิตช์ไฟ แบบสัมผัสที่กำลังมาแรง เพราะมีทั้งรูปลักษณ์ที่สวยงาม ทันสมัย ดูโมเดิร์น แถมยังมีคุณสมบัติดี ๆ อีกหลายอย่าง แต่ไม่ว่าจะเลือกติดตั้งสวิตช์ไฟแบบไหน สิ่งสำคัญก็คือการเลือกติดตั้งให้เหมาะสมกับหลอดไฟหรือลักษณะการใช้งานของเรามากที่สุด นอกจากนี้เราควรศึกษาคุณสมบัติของสวิตช์ไฟแบบต่าง ๆ ให้ดี เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน ไม่พังง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย และหมั่นตรวจเช็กรวมถึงบำรุงรักษาสวิตช์ไฟและระบบไฟในบ้านอย่างสม่ำเสมอด้วย 

แชร์ :