สิว เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง แถมยังสามารถเกิดได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทำงานซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังต้องเจอมลภาวะต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่หนึ่งในสิวที่ใครหลายคนไม่อยากเจอมากที่สุดก็คือ “สิวหัวช้าง” ซึ่งเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ เกิดขึ้นมาทีไรทั้งสร้างความเจ็บปวดแถมยังทำให้เสียความมั่นใจอีกต่างหาก! เพราะฉะนั้นวันนี้เราลองมาทำความรู้จักกันว่าสาเหตุของสิวหัวช้างคืออะไร สิวหัวช้าง อาการเป็นอย่างไร และสามารถรักษาได้อย่างไรบ้าง


ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว รักษาสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวหัวช้าง


สิวหัวช้างคืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร


สิวหัวช้าง (Acne Conglobata) คือ สิวอุดตันหรือสิวอักเสบที่มีแบคทีเรีย P.acnes เติบโตอยู่ในบริเวณที่เกิดสิว เมื่อแบคทีเรียชนิดนี้เติบโตมากขึ้นก็อาจทำให้เกิดการอักเสบ เพราะมีสารเอนไซม์ที่ไปกระตุ้นการเกิดกรดไขมัน ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิวเจริญเติบโตอยู่ในตุ่มสิว และถ้าแบคทีเรียชนิดนี้เติบโต หรือเพิ่มจำนวนมากขึ้น ก็จะทำให้เกิดสิวหัวช้างอักเสบได้ สิวหัวช้าง มีลักษณะอาการหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเริ่มแรก ที่เป็นตุ่มสิวขนาดใหญ่สีขาว เมื่อสัมผัสจะรู้สึกคล้ายมีก้อนแข็งและรู้สึกเจ็บ ไปจนถึงระดับการอักเสบทำให้สิวหัวช้างไม่มีหัวมีสีแดง บวมนูน ปวดและเจ็บมากเมื่อสัมผัส



สิวหัวช้าง เกิดจากอะไร


1. ไขมันส่วนเกินบนผิวหนัง 

ร่างกายของเรามีสารที่เรียกว่า ซีบัม (Sebum) ซึ่งเป็นสารที่มีความมัน ปกติแล้วจะช่วยเคลือบผิวเพื่อปกป้องผิวจากมลภาวะและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แต่หากสารนี้ถูกผลิตออกมามากเกินไปจนเกิดความมันส่วนเกินและไปผสมกับครีม เครื่องสำอาง ฝุ่น หรือมลภาวะต่าง ๆ จนเกิดการอุดตัน ก็อาจทำให้เกิดสิวหัวช้างขึ้นมาได้


2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

สิวหัวช้างมักเกิดกับวัยรุ่นวัยเรียนมากกว่าวัยอื่น ๆ เพราะเป็นช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนสูงกว่าช่วงวัยอื่น ทำให้เกิดสิวได้ง่าย


3. พักผ่อนไม่เพียงพอและดื่มน้ำน้อย

การพักผ่อนไม่เพียงพอและการดื่มน้ำน้อยก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวหัวช้างเช่นกัน เพราะหากผิวขาดความชุ่มชื้นจะทำให้ร่างกายผลิตไขมันออกมามากขึ้น เป็นสาเหตุของการเกิดสิวประเภทต่าง ๆ นั่นเอง


4. ล้างหน้าไม่สะอาด

หนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดสิวหัวช้างและสิวทุกประเภทก็คือการล้างหน้าไม่สะอาด เพราะหากล้างหน้าไม่สะอาดจะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนจนเป็นที่มาของสิว



วิธีรักษาสิวหัวช้าง


1. ไม่บีบ แคะ แกะ เกา

สิวหัวช้างไม่มีหัว เพราะฉะนั้นวิธีรักษาและป้องกันสิวหัวช้างกลับมาเป็นซ้ำข้อแรกก็คือ ห้ามบีบ แคะ แกะ เกาสิวเด็ดขาด การรักษาคือควรปล่อยให้สิวสุกและค่อย ๆ ยุบตัวลงเองตามธรรมชาติ หากพยายามไปบีบหรือแกะสิวอาจทำให้เกิดหลุมลึก รักษายาก แถมยังเสี่ยงทำให้เกิดสิวเรื้อรังเกิดขึ้นในจุดเดิมด้วย


2. ล้างหน้าให้สะอาด

หนึ่งในการรักษาสิวที่ดีที่สุดคือการรักษาความสะอาดของใบหน้า หากใครแต่งหน้าหรือใช้ครีมกันแดด ควรเริ่มขั้นตอนการล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งก่อน จากนั้นจึงทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนด้วยโฟมล้างหน้า ปิดท้ายด้วยการล้างน้ำสะอาดให้หมดจด อาจจะใช้โทนเนอร์ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงก็คือการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง


3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิวหัวช้างโดยเฉพาะ

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าสิวหัวช้าง ทายาอะไร ยารักษาที่เหมาะกับสิวหัวช้าง เมื่อทาและให้ประสิทธิภาพดี เป็นวิธีรักษาสิวหัวช้างภายใน1วันเพราะทาแล้วช่วยให้สิวแห้งเร็ว ก็คือยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ลดการอุดตัน แต่อาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสงจึงควรใช้ควบคู่กับครีมกันแดด


นอกจากนี้ ยังมียาในกลุ่มของ Benzoyl peroxide ซึ่งเป็นยาทาที่เหมาะกับสิวทุกประเภทรวมถึงสิวหัวช้าง เนื่องจากช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ทำให้ดื้อยา แต่อย่างไรก็ตามหากมีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ โดยตัวยาต่าง ๆ สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อป้องกันการดื้อยาตามมา



วิธีป้องกันไม่ให้สิวหัวช้างกลับมาเป็นอีก


ส่วนวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวช้างขึ้นอีก เราสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง คือ ไม่สัมผัสใบหน้าระหว่างวัน รวมถึงไม่บีบ แคะ แกะสิว เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิว ทำให้สิวอักเสบและลุกลาม เป็นสาเหตุของรอยดำบนใบหน้าที่รักษายาก


รวมไปถึงการพยายามปรับพฤติกรรมของเรา ให้มีสุขอนามัยมากขึ้น โดยการล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 ลิตร ที่สำคัญอย่าลืมซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้าให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงอุปกรณ์แต่งหน้าต่าง ๆ ที่ต้องสัมผัสกับใบหน้าของเราด้วย เพื่อลดและป้องกันการเกิดเชื้อแบคทีเรีย จนเป็นสาเหตุของสิวในอนาคต


สิวหัวช้างเป็นสิวที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะเป็นตุ่มนูนใหญ่ ทำให้เสียความมั่นใจ เสียบุคลิก แถมยังรู้สึกเจ็บปวดเมื่อไปสัมผัสโดน แต่หากเกิดสิวหัวช้างอักเสบขึ้นบนใบหน้าของเราแล้ว ก็ต้องหมั่นรักษาความสะอาดและทายาอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยให้สิวค่อย ๆ ยุบเอง ไม่ไปแกะสิวเด็ดขาด เท่านี้สิวหัวช้างก็จะค่อย ๆ หายไปเองและไม่กลับมากวนใจอีกแน่นอน

แชร์ :