นอกจากอากาศเย็นสบายแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่มักจะมาพร้อมหน้าหนาว แต่เราทุกคนต่างก็ไม่อยากเจอ นั่นก็คือ มลพิษตัวร้าย อย่าง ฝุ่น PM 2.5 แม้จริง ๆ แล้วมลภาวะนี้ จะเกิดได้ตลอดทุกฤดูกาล แต่ในฤดูหนาวที่อากาศแห้งและไม่มีลมนั้น ยิ่งทำให้เจ้า PM 2.5 ทวีความรุนแรง และส่งผลกระทบต่อชีวิตเรามากยิ่งขึ้น ทรูช้อปปิ้ง จึงขอชวนทุกคน มาเตรียมตัว เตรียมพร้อมรับมือกับ ฝุ่น pm 2.5 ผลกระทบต่อร่างกาย มีอะไรและร้ายแรงแค่ไหน เพื่อจะได้ป้องกันอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่ต้องระวังผลกระทบ จากฝุ่นพิษ PM2.5 นี้เป็นพิเศษ จะมีใครและต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ตามเรามาและตั้งการ์ดไปพร้อมกันเลย เริ่ม!! 


ฝุ่น PM 2.5 มาจากไหน เกิดจากอะไร ?


ก่อนจะไปสู้รบรับมือเจ้าศัตรูตัวร้าย มาทำความรู้จักกันซักนิดว่า ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร และมันมีที่มาที่ไปยังไงบ้าง เพื่อจะได้เข้าใจและเตรียมจัดการได้ถูกเนอะ! เริ่มกันที่คำว่า “ฝุ่น PM 2.5” หมายถึง ฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กมาก ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งคำว่า PM นั้น ย่อมาจาก Particulate matter with diameter of less than 2.5 micron หรือแปลว่า เป็นฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว ที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนนั่นเอง 



เจ้าฝุ่น PM 2.5 นี้ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และถ้าฝุ่นนี้มีปริมาณสูงมาก เราอาจจะมองเห็นเป็นคล้ายกับหมอกหรือควัน โดยสาเหตุหลัก ๆ ของเจ้าฝุ่นจิ๋วนี้ ก็มีที่มาจากแหล่งการเผาไหม้ อย่างเช่น 


1) ไอเสียของรถยนต์และการจราจร โดยเฉพาะการเผาไหม้น้ำมันดีเซล รวมถึงการจราจรที่ติดขัดเป็นระยะเวลานาน 


2) การเผาวัสดุการเกษตร เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก การเผาขยะ และการเผาป่า 


3) อากาศพิษจากโรงงานหรือกระบวนการอุตสาหกรรม การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล หรือเชื้อเพลิงที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะถ่านหิน 


รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของคนเราอย่างเช่น ควันจากการจุดธูปเทียน ควันบุหรี่ การใช้เครื่องถ่ายเอกสาร ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลทำให้เกิดเป็นมลพิษได้เช่นกัน



และอย่างที่เราได้เกริ่นไปว่า ปกติแล้วฝุ่น PM 2.5 สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด แต่จะเกิดมากขึ้น ในช่วงที่เปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูหนาวสู่ฤดูร้อน ในช่วงปลายฤดูหนาว บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุม ประกอบกับมีการผกผันกลับของอุณหภูมิ (Inversion) ในระดับล่าง ส่งผลให้ระดับเพดานการลอยตัว และการกระจายตัวของฝุ่นละอองอยู่ในระดับต่ำ การไหลเวียนและถ่ายเทของอากาศไม่ดี จึงทำให้การสะสมของฝุ่นละออง หมอก และควัน ในบรรยากาศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น


อ้างอิงจาก : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



ฝุ่น PM 2.5 ผลกระทบต่อร่างกาย

ด้วยขนาดที่เล็กกว่าฝุ่นละอองทั่วไปมากๆๆๆ ทำให้เจ้าฝุ่น PM 2.5 นี้ ความร้ายของมันอยู่ที่ การมีฤทธิ์แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเราได้ลึก จนถึงชั้นในสุดของปอด และยังส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจสมอง รวมไปถึง “หัวใจ” อีกด้วย ซึ่งความร้ายกาจของเจ้าฝุ่นจิ๋ว ที่นอกจากจะเข้าไปในร่างกายได้ลึกแล้ว มันยังสามารถรวมตัวกับสารพิษ เช่น ไฮโดรคาร์บอน สารก่อมะเร็ง และโลหะหนัก จากนั้นทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ให้สารเหล่านั้นมาเคลือบบนผิวของมัน และพาสารพิษเหล่านั้น เข้าสู่ปอดและร่างกายของเรา!! โอโหหหหห ฝุ่นจิ๋วแต่พิษร้ายมากนะ โดยผลกระทบต่อร่างกาย ที่เราอยากให้ทุกคนระวังไว้ก็คือ 



ผลกระทบโดยตรงกับปอดและทางเดินหายใจ

แน่นอนว่า ฝุ่น pm 2.5 ส่งผลกระทบโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจ เพราะฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า สามารถผ่านเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ง่ายและรวดเร็ว มันสามารถผ่านการกรองของขนจมูก และเข้าสู่ชั้นในสุดของปอดได้ ทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ หรือโรคปอดต่าง ๆ เบื้องต้นอาจทำให้เรารู้สึกแสบจมูก ไม่สบาย ไอและมีเสมหะ และทำให้คนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจและเปิด มีอาการกำเริบได้ง่าย 


ฝุ่น pm 2.5 ผลกระทบต่อร่างกาย หากได้รับฝุ่ในปริมาณมาก หรือเป็นเวลานาน จะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพ ทําให้หลอดลมอักเสบ รวมไปถึงส่งผลให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดมีอาการกำเริบ รวมถึงเป็นสาเหตุให้คนปกติ เป็นหอบหืดได้เช่นกัน หากไม่รีบแก้ไข หรือไม่รู้ตัวว่าได้สูดเอามลพิษขนาดเล็กเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและปอด จนสะสมเป็นระยะเวลานาน ก็อาจเป็นปัจจัยนำไปสู่การเกิดมะเร็งปอดได้ในที่สุด 


ผลเสียต่อต่อสมอง 

นอกจากผลเสียอย่างร้ายแรงต่อระบบทางเดินหายใจและหัวใจแล้ว เจ้าฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 มันยังสามารถผ่านเข้าสู่กระแสเลือดและเกิดการสะสม ซึ่งจะส่งผลให้ เลือดมีความหนืด ความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง รวมถึงหลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว ทำให้เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก เป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์อัมพาตและเสียชีวิตได้ 


ผลร้ายต่อหัวใจ 

ความร้ายกาจและอันตรายของ PM 2.5 ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น การที่เราสูดหายใจเอาฝุ่นพิษ ที่ไม่รู้ว่ามีสารอันตรายอะไรบ้างเข้าไปในร่างกาย ติดต่อกันเป็นเวลานาน มันยังส่งผลต่อให้เกิดการตะกอนภายในหลอดเลือด ทำให้เกิดหัวใจวาย หรือหลอดเลือดสมองตีบได้ รวมถึงมีผลต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ และอาจรุนแรงจนถึงขั้นทำให้หัวใจวายเฉียบพลันได้อีกด้วย 


ผลกระทบทำร้ายผิว 

นอกจาก ฝุ่น PM 2.5 จะเข้าไปทำร้ายร่างกายภายในของเราแล้ว มันยังสามารถทำอันตรายกับผิวหนังของเราได้ด้วย สาว ๆ คนไหนไม่อยากให้ผิวเสีย อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการที่ ฝุ่น PM 2.5 เล็กกว่าขนาดของรูขุมขนของรา มันจึงสามารถซึมผ่านเข้าผิวหนัง ทำให้เกิดผดผื่น ผิวหนังอักเสบ มีอาการแดง คัน ระคายเคืองผิว โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย โรคภูมิแพ้ผิวหนัง จะมีผื่นกำเริบได้ง่าย 


นอกจากนั้น มันยังทำให้ผิวหน้าของเรามันขึ้น น้ำมันบนหน้าและฝุ่นละออง จะรวมกันทำให้เกิดการอุดตันของผิว และนำมาซึ่งสิวเจ้าปัญหาในที่สุด และที่สำคัญ ฝุ่นยังจะไปกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ ที่จะมาทำลายผิว ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย รวมไปถึงเกิดฝ้าและจุดด่างดำได้อีกด้วย


ฝุ่น PM 2.5 แค่ไหนควรเลี่ยง และใครเสี่ยงเป็นพิเศษ


ฝุ่น pm 2.5 ผลกระทบต่อร่างกาย สำหรับค่าความอันตรายของฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพคนเรานั้น องค์กรอนามัยโลก หรือ WHO ตั้งค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศ ไว้ว่า หากเกินกว่า 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในขณะที่ประเทศไทยเอง มีการกำหนดอันตรายของฝุ่น PM 2.5 ไว้อยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าที่ WHO กำหนด แต่ไม่ว่าจะถือมาตรฐานไหน ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทยในทุกวันนี้ ถือว่าเข้าขั้นวิกฤติ อยู่ที่เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะบริเวณท้องถนน บริเวณที่มีการจราจรหนาแน่น และบริเวณรอบ ๆ สถานที่ก่อสร้าง


ซึ่งแม้ฝุ่นจิ๋ว PM2.5 จะไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของเราแบบเฉียบพลันทันที ต้องใช้ระยะเวลาสะสมนับสิบปี ถึงจะแสดงผล แต่ก็ประมาทไม่ได้ และไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง เพราะเราทุกคนที่กำลังสูดดมฝุ่นพิษบ่อย ๆ โดยที่ไม่ได้มีการป้องกันอย่างถูกต้อง ล้วนมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ และเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กเล็ก คุณแม่ตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคปอดหรือโรคหัวใจ ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ควรดูแลและป้องกันตัวให้ไกลจากฝุ่นพิษ PM 2.5 


แนวทางรับมือและป้องกัน ฝุ่น PM 2.5


แม้ว่าเราอาจจะมีสุขภาพแข็งแรง และไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังตัวจากฝุ่น PM 2.5 เป็นพิเศษ แต่ฝุ่นพิษนี้ ก็ยังคงส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การป้องกันตัวไว้ก่อนคือหนทางที่ดีที่สุด และนี่คือวิธีเตรียมพร้อมในการป้องกันตัวเองจาก PM 2.5 ที่ทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้คำแนะนำเป็นแนวทางปฏิบัติเอาไว้ ดังนี้! 


  • สวมอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นเมื่อต้องออกจากบ้าน เช่น หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ รวมทั้งใส่เสื้อผ้าแขนยาว เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ระคายเคือง


  • ทำความสะอาดผิวหรือล้างหน้าให้สะอาดทันที หลังจากสัมผัสกับฝุ่นมลพิษ ทาครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น และเป็นเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงขึ้น


  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีค่ามลพิษสูงนาน ๆ รวมถึงงดออกกำลังกายหรือทำงานหนักกลางแจ้ง 


  • ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท ไม่ให้ฝุ่นเข้าบ้าน หมั่นทำความสะอาดบ้านไม่ให้มีฝุ่นสะสม และใช้เครื่องฟอกอากาศที่ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ 


  • ดูแลร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ เพื่อช่วยในการขับสารพิษจากร่างกาย พยายามกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นผักผลไม้วิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ



ฝุ่นพิษกลับมา อย่าลืมป้องกัน! เพราะทุกหน้าหนาว PM 2.5 มักพาโรคร้ายมาทำลายสุขภาพเรา เตรียมพร้อมรับมือกันไว้ก่อน และหนึ่งในอาวุธสำคัญ คือเกราะช่วยป้องกันอย่าง หน้ากากอนามัยกันฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะเท่านั้น ถึงจะช่วยปกป้องสุขภาพคุณได้ ทรูช้อปปิ้งแนะนำ Cuwin Mask หน้ากากอนามัย 3D มาตราฐานเกาหลี มีแผ่นกรองถึง 4 ชั้น ระบายอากาศดี เข้ากับทุกรูปหน้า สวมใส่สบาย ที่สำคัญสามารถปกป้องคุณและคนที่รักจากฝุ่นละอองและเชื้อโรค PM2.5 ได้ถึง 99% 


ดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ >> Cuwin Mask หน้ากากอนามัย 3D สำหรับเด็กและผู้ใหญ่



ขอบคุณข้อมูลจาก 

https://www.chula.ac.th

https://www.airnow.gov/

https://www.samitivejchinatown.com

https://www.bumrungrad.com/th

https://theworldmedicalcenter.com/th

แชร์ :