ชี้เป้า 7 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ใช้คุ้ม ใช้ดี ปีนี้ต้องไม่แพ้ฝุ่น!

ในยุคที่มลภาวะทางอากาศรายล้อมอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น Covid-19 ที่ทำให้ทุกประเทศทั่วโลกต้องล็อกดาวน์กว่า 2 ปีและยังคงส่งผลกระทบมาจนถึงปัจจุบัน ไปจนถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ยังกระทบต่อคนไทยในเมืองใหญ่ การซื้อเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีไว้ติดบ้านจึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่การเลือกเครื่องฟอกอากาศ ฉลาดซื้ออย่างไรให้ได้เครื่องฟอกอากาศราคาถูกและดี คุ้มค่า ใช้งานได้เหมาะสมที่สุด เรามีลิสต์ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี มาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆ ที่มองหาเครื่องฟอกอากาศราคาดีและฟังก์ชั่นครบ คุ้มค่า ต้องมีติดบ้านไว้สู้ฝุ่น

เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อดัง คุณภาพดี คลิก

1. เครื่องฟอกอากาศ Pando Air D Cube Air Purifier

เริ่มกันที่เครื่องฟอกอากาศ Pando Air D Cube Air Purifier ที่เน้นคุณสมบัติเด่นที่ความเงียบ เหมาะสำหรับใช้งานในที่พักอาศัยเพราะเสียงไม่ดัง ไม่รบกวนการพักผ่อน พร้อมโหมด Sleep ที่ช่วยปรับการทำงานให้เหมาะสมระหว่างการนอนหลับ สามารถฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ประสิทธิภาพสูงสุดที่ 190 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง พร้อมช่องดูดอากาศ 270 องศา และไส้กรอง HEPA ที่ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็กสูงสุดได้ที่ 0.3 ไมครอน พร้อมกรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศและสารก่อภูมิแพ้ได้ 99.97% เป็นเครื่องฟอกอากาศ ถูกและดีที่ช่วยลดความเสี่ยงของฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี

Credit : www.freepik.com

2. เครื่องฟอกอากาศ SHARP FU-NC01-W 

สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2566 เครื่องฟอกอากาศจาก SHARP รุ่น FU-NC01-W ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีการปรับดีไซน์ใหม่ให้น้ำหนักเบาเพียง 2 กิโลกรัม ขนาดกะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นที่มีขนาดห้องไม่เกิน 10 ตร.ม. ช่วยฟอกอากาศได้แบบ 360 องศา ส่วนไส้กรองมี 3 ชั้น คือ ชั้นกรองหยาบ ชั้นกรองคาร์บอน และชั้นกรอง HEPA และยังมีความโดดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยี Plasmacluster ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ SHARP ทำให้มีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ สูงสุดและยังกินไฟต่ำ เป็นเครื่องฟอกอากาศ pm 2.5 ที่ราคาเบา ๆ และใช้งานได้ดี เหมาะสำหรับมีติดบ้านไว้สักเครื่อง

3. เครื่องฟอกอากาศ SMART HOME AP-180UV

เอาใจคนมองหา เครื่องฟอกอากาศ ถูกและดี ราคาประหยัดแต่ใช้งานคุ้ม เพราะ SMART HOME AP-180UV มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันในราคาไม่แพง ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอง 4 ชั้น คือ ชั้นกรอง Pre-filter สำหรับกรองฝุ่นหยาบ ชั้นกรอง HEPA H13 สำหรับกรองฝุ่นละเอียดระดับ 0.1 ไมครอน ชั้นกรองถ่านกัมมันต์หรือ Carbon Filter สำหรับดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ และชั้นกรอง Anion Filter ที่ปล่อยประจุไฟฟ้าขั้วบวกและลบสำหรับดักจับอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา หรือไรฝุ่น นอกจากนี้ยังมีระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV ที่ผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานจากสวทช. ว่ามีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ E.coli 8739 และ S.oureus 6538 ได้ 100% อีกด้วย

Credit : www.freepik.com

4. เครื่องฟอกอากาศ Electrolux FA31-203BL

อีกหนึ่งแบรนด์ที่เราอยากแนะนำสำหรับคนตามหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2566 ก็คือ Electrolux FA31-203B ที่มีดีไซน์สวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตั้งไว้ตรงมุมไหนของบ้านก็ดูดี และยังมาพร้อมระบบการกรอง 5 ขั้นตอน คือ ชั้นกรอง Pre-filter สำหรับกรองฝุ่นหยาบที่มีขนาดใหญ่ ชั้นกรอง Anti-bacterial HEPA ที่มีคุณสมบัติช่วยกรองอนุภาคแบคทีเรียขนาดเล็ก ชั้นกรอง HEPA13 ที่ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็กขนาด 0.3 ไมครอน ชั้นกรอง Activated Carbon ที่ช่วยดูดซับสารระเหย สารเคมี และกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศ และชั้นกรองแสง UV-C ที่ช่วยขจัดและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ผ่านการทดลองและรับรองจากสถาบันทางวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติเพื่อการันตีคุณภาพ รองรับการกรองอากาศในห้องขนาดไม่เกิน 22 ตร.ม.

5. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 4 Lite Air Purifier Global

เมื่อพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยเปลี่ยนบ้านให้เป็นสมาร์ทโฮม แบรนด์ Xiaomi ต้องเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่เรานึกถึง ในส่วนของเครื่องฟอกอากาศเองก็เช่นกัน สำหรับ Xiaomi 4 Lite Air Purifier Global รุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายสุดมินิมอล เหมาะสำหรับห้องขนาด 25 – 43 ตร.ม. มาพร้อมหน้าจอ LED เพื่อช่วยแสดงค่าต่าง ๆ ให้เราเช็กคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์ สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อีกด้วย

Credit : www.freepik.com

6. เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS AC1215

หนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นใหม่ ๆ ในตลาดก็คือ PHILIPS AC1215 ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้งานเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับห้องขนาด 21 – 63 ตร.ม. มาพร้อมแผ่นกรองอากาศ NanoProtect HEPA และชั้นกรองถ่านกัมมันต์ (Carbon) ที่ช่วยลดกลิ่นและกรองสารเคมีในอากาศ นอกจากนี้ยังมีชั้นกรองหยาบหนาถึง 3 ชั้น ช่วยดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก 0.003 ไมครอน ได้สูงถึง 99.97% และยังช่วยกำจัดแบคทีเรียและไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศได้ถึง 99.9% แต่ทำงานเงียบ ไม่รบกวนการพักผ่อน เป็นอีกหนึ่งเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2566 ที่ยังขายดีติดท็อปลิสต์

7. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Pro EU Air Purifier

ปิดท้ายกันที่ Xiaomi Mi Pro EU Air Purifier ซึ่งเป็นไอเทมที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับคนตามหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2566 เพราะเป็นเครื่องฟอกรุ่นท็อปอีกรุ่นจาก Xiaomi ด้วยดีไซน์เรียบหรู ดูมินิมอล พร้อมฟังก์ชันสุดไฮเทคที่เราสามารถควบคุมและสั่งการได้ทั้งผ่านระบบเสียงและระบบสัมผัส รองรับการใช้งานผ่านแอปฯ MI Home พร้อมจอ OLED ช่วยแสดงค่าอากาศแบบเรียลไทม์ เหมาะกับห้องขนาด 35 – 60 ตร.ม. มีชั้นกรองอากาศ 3 ชั้น ช่วยกรองฝุ่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ ไปจนถึง PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียงเบา ไม่รบกวนการพักผ่อน เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านไปจนถึงสำนักงาน

ใครอยากได้ไอเดียสำหรับเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ก็คงได้ตัวเลือกไปเป็นแนวทางการซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับบ้านหรือห้องที่เราต้องการกันแล้ว สิ่งสำคัญคือการเลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดห้องที่นำไปใช้งาน รวมถึงเลือกฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด เท่านี้เราก็จะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ปราศจากกลิ่นรบกวนหรือความเสี่ยง PM 2.5 แล้วล่ะ